ในปัจจุบันการใช้งานแบตเตอรี่นั้นถือเป็นเรื่องปกติที่เราต้องเจอในแต่ละวัน โดยส่วนมากแล้วแบตเตอรี่ที่เราพบเห็นหรือใช้งานกันโดยทั่วไป จะอยู่ภายในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แบตเตอรี่จะคอยให้พลังงานไฟฟ้าในอุปกรณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่อุปกรณ์เล็ก ไปจนถึงอุปกรณ์ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องสำรองไฟ รถยนต์ หรือแม้แต่เครื่องจักรภายในโรงงาน ซึ่งในส่วนของแบตเตอรี่นั้น ก็มีหลากหลายชนิดแตกต่างกันออกไปตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ดังนั้นการทําความเข้าใจความแตกต่างระหว่างแบตเตอรี่แต่ละชนิด จึงเป็นสิ่งสําคัญที่ควรศึกษาไว้ก่อนนำมาใช้งานนั่นเองครับ วันนี้ Spa Battery จะพาทุกท่านมารู้จักกับแบตเตอรี่แห้งและแบตเตอรี่ลิเธียมฟอสเฟส แบตเตอรี่ 2 ชนิด ที่กำลังถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในปัจจุบันครับ

  • แบตเตอรี่ตะกั่วกรด ( SLA : Sealed Lead Acid )

แบตเตอรี่ตะกั่วกรดชนิดซีล หรือที่เรียกติดปากกันว่า แบตแห้ง เป็นแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ดี เป็นเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ใช้งานมาหลายสิบปี และยังคงใช้งานอยู่จนถึงปัจจุบัน สำหรับแบตเตอรี่ประเภทนี้ มักถูกใช้งานในเครื่องสำรองไฟ ระบบไฟฉุกเฉินต่างๆ เช่น ไฟฉุกเฉินสำหรับส่องทางเดิน, ป้ายทางออก, ป้ายหนีไฟ, เครื่องสำรองไฟฟ้า (Uninterruptible Power Supply: UPS)  รวมถึงระบบสื่อสาร รถกอลฟ์ จักรยานไฟฟ้า มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า และอุปกรณ์สำคัญทางการแพทย์   แบตแห้งเป็นแบตที่มีราคาไม่แพง เข้าถึงได้ง่าย จึงเป็นที่นิยม และถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

  • แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนฟอสเฟส  ( LiFePO4 : Lithium Iron Phosphate )

แบตลิเทียมไอออนฟอสเฟส LiFePO4 เป็นแบตเตอรี่ที่ถูกผลิตขึ้นในช่วง10ปีที่ผ่านมา แต่เพิ่งได้รับความนิยมอย่างมากในไม่กี่ปีนี้ แบตลิเทียมไอออนฟอสเฟสจัดเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบชาร์จได้ประเภทหนึ่งที่ใช้ลิเธียมเหล็กฟอสเฟตเป็นวัสดุแคโทด ซึ่งต่างจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนอื่นๆ ที่ใช้โคบอลต์ เป็นวัสดุแคโทด  ด้วยลักษณะของแบตลิเทียมไอรอนฟอสเฟส ที่มีความปลอดภัยสูง และมีความทนทานกว่า เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ลิเทียมชนิดอื่น แบตประเภทนี้มักถูกใช้งานในยานยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ โซล่าเซลล์ เป็นต้น

        ตารางเปรียบเทียบการใช้งานเบื้องต้น

       

        จากตารางข้างต้นความจุที่สามารถใช้งานได้ จะเป็นความจุที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานหากต้องการให้แบตเตอรี่มีอายุยืนยาว    แบตเตอรี่แห้งควรใช้งานแบตเตอรี่ที่ 50-70%ของความจุแบตเตอรี่  ส่วนแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟตจะสามารถใช้ได้ถึง 80 -100% ของความจุแบตเตอรี่ ในด้านการใช้งานจริง แบตเตอรี่มีความจุ 100% จะไม่สามารถดึงไฟที่เก็บไว้ออกมาใช้งานได้ทั้ง 100% ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของแบตเตอรี่และความแรงของกระแสไฟที่เราดึงออกมาใช้งาน

        สุดท้ายนี้การเลือกแบตเตอรี่ให้เหมาะสมนั้น ขึ้นอยู่กับข้อกำหนด และประเภทของงานที่ต่างๆกัน หากใครให้ความสำคัญกับอายุการใช้งานและประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ LiFePO4 ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ในทางกลับกัน หากต้นทุนเป็นปัจจัยสำคัญและมีการใช้งานแบตเตอรี่ที่สม่ำเสมอ แบตเตอรี่ SLA ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อแบตเตอรี่ อย่าลืมพิจารณาจุดประสงค์ของการใช้งาน งบประมาณ และข้อกำหนดต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อแบตเตอรี่นะครับ หากท่านไหนยังลังเลว่าควรใช้แบตเตอรี่ประเภทใด หรือต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม สามารถทักเข้ามาสอบถามได้ที่

https://www.facebook.com/spabattery  หรือ Line : @spabattery นะครับ