ในยุคที่อุตสาหกรรมก้าวเข้าสู่ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ การใช้ รถ AGV, AGV Robot รวมถึงระบบจัดเก็บสินค้าแบบ Shuttle Rack เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะช่วยลดต้นทุนแรงงาน เพิ่มความแม่นยำ และทำงานได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องหยุดพัก อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของเครื่องจักรเหล่านี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับระบบนำทางหรือซอฟต์แวร์เพียงอย่างเดียว แต่หัวใจสำคัญที่ทำให้ระบบเหล่านี้ทำงานได้อย่างเสถียร คือ “แหล่งพลังงาน” หรือ “แบตเตอรี่” บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจแบบง่าย ๆ ว่าทำไม แบตเตอรี่ลิเธียม ถึงกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับรถ AGV และ Shuttle Car ในปัจจุบัน
AGV Robot (Automated Guided Vehicle) หรือ รถ AGV คือหุ่นยนต์ที่เคลื่อนที่โดยอัตโนมัติตามเส้นทางที่กำหนด เช่น แถบแม่เหล็ก หรือเลเซอร์ เพื่อใช้ในการขนย้ายสินค้า วัตถุดิบ หรือพาเลทภายในโรงงานโดยไม่ต้องใช้คนขับ
Shuttle Car เป็นพาหนะขนาดเล็กที่วิ่งอยู่บนรางภายในชั้นวางสินค้า หรือที่เรียกกันว่า Shuttle Rack ทำหน้าที่วิ่งเข้าไปรับหรือวางพาเลทสินค้าในช่องเล็ก ๆ ที่รถโฟล์คลิฟท์เข้าไม่ถึง
ทั้งสองระบบนี้ต้องการแหล่งจ่ายไฟที่มีความเสถียรสูง น้ำหนักเบา เพื่อการเคลื่อนที่ที่คล่องตัว และที่สำคัญคือต้องชาร์จไฟได้เร็วเพื่อให้ระบบทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ออกแบบสำหรับการทำงานต่อเนื่อง: อุปกรณ์ส่วนใหญ่ เช่น รถ AGV และ AGV Robot ต้องทำงานหลายชั่วโมงต่อวัน บางระบบในคลังสินค้าต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง แบตเตอรี่ลิเธียมสามารถจ่ายพลังงานได้สม่ำเสมอแม้ใช้งานยาวนานต่อเนื่อง ทำให้การเคลื่อนที่และควบคุมตำแหน่งมีความเสถียรตลอดทั้งรอบงาน
รองรับการชาร์จแบบ Opportunity Charging (ชาร์จเร็วระหว่างพัก): แบตเตอรี่ลิเธียม รองรับการชาร์จด้วยกระแสสูง (High C-Rate) สามารถชาร์จไฟจนเต็มได้ภายใน 1-2 ชั่วโมง หรือใช้เทคนิค Opportunity Charging คือการชาร์จสั้นๆ 10-15 นาทีในช่วงเวลาที่หุ่นยนต์หยุดพัก (เช่น ระหว่างรอโหลดของ หรือช่วงพักเบรค) ทำให้เครื่องจักรสามารถทำงานได้ต่อเนื่อง 24 ชม. โดยไม่ต้องถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่สำรอง
น้ำหนักเบา พลังงานสูง ประหยัดพื้นที่: แบตเตอรี่ลิเธียมสามารถเก็บพลังงานได้มากในขนาดที่เล็กลง เหมาะกับ AGV Robot ที่ต้องการพื้นที่ภายในตัวรถเพื่อรองรับวงจรควบคุม มอเตอร์ และเซนเซอร์ต่าง ๆ รวมถึง Shuttle Car ที่ต้องถูกติดตั้งในพื้นที่จำกัดภายในรางของ Shuttle Rack
ระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) เพิ่มความปลอดภัย: BMS ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพ โดยจะคอยตรวจสอบสถานะการชาร์จและการปล่อยไฟฟ้า ป้องกันความเสียหายจากการชาร์จเกินหรือการใช้ไฟเกิน นอกจากนี้รถ AGV Robot ที่มีการเชื่อมต่อผ่าน CANBUS หรือ RS485 สามารถอ่านข้อมูลจาก BMS เพื่อนำไป คำนวณเวลาใช้งานที่เหลือ หรือเตรียมระบบเข้าสู่สถานะพักเมื่อใกล้หมดได้ทันที
การเลือกแบตเตอรี่ลิเธียมสำหรับ รถ AGV / AGV Robot / Shuttle Car ควรพิจารณาปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานและทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยพิจารณาจาก
1). ความต้องการในการใช้งาน ชั่วโมงการทำงาน น้ำหนักบรรทุก ระยะทางเส้นทาง และสภาพแวดล้อม
2). รูปแบบการชาร์จ ระบบชาร์จเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องกำหนดให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น กำลังไฟของเครื่องชาร์จ เวลาในการชาร์จ เครื่องชาร์จ ระบบป้องกัน/สื่อสารกับ BMS
3). ข้อจำกัดด้านพื้นที่และน้ำหนัก งาน Shuttle Car และ AGV Robot มักมีพื้นที่ภายในจำกัด ในหลายกรณี แบตเตอรี่ต้องออกแบบแบบ Custom Battery Pack เพื่อให้ตรงกับพื้นที่จริงของตัวรถโดยไม่กระทบต่อชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์หรือเซนเซอร์
4). การรับรองด้านความปลอดภัย แบตเตอรี่สำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมต้องมีการรับรองความปลอดภัยที่ถูกต้องตามมาตรฐาน
เมื่อพูดถึงแบตเตอรี่ลิเธียมคุณภาพสูงสำหรับ AGV และ Shuttle Car SPA Battery คือคำตอบที่คุณกำลังมองหา เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตแบตเตอรี่
ทำไมต้องเลือก SPA Battery?
เรามีทีมออกแบบแบตเตอรี่เฉพาะตามการใช้งานจริง ทีมวิศวกรและช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญของเราจะวิเคราะห์และออกแบบแบตเตอรี่ให้ตรงกับความต้องการของคุณ เราเข้าใจดีว่าในทุกงานมีความต้องการที่แตกต่างกัน และการใช้แบตเตอรี่ที่ออกแบบมาอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในระยะยาว
ปรับแต่งได้ตามความต้องการ – ไม่ว่าคุณจะต้องการแรงดันไฟ 24V, 48V หรือ 72V ความจุตั้งแต่ 10Ah จนถึง 100Ah หรือขนาดและรูปทรงพิเศษเพื่อให้เข้ากับพื้นที่จำกัด เราสามารถออกแบบและผลิตแบตเตอรี่ที่ตอบโจทย์ได้
สนใจปรึกษาเรื่องแบตเตอรี่รถ AGV / Shuttle Car ทักหา SPA Battery ได้เลย เราพร้อมดูแลคุณด้วยความเป็นมืออาชีพ
คลิก! https://www.facebook.com/spabattery หรือ Line : @spabattery
Q: รถ AGV ควรใช้แบตความจุเท่าไหร่ดี ?
A: ขึ้นอยู่กับน้ำหนักบรรทุก ระยะทาง และชั่วโมงการทำงาน ควรให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินสเปกเพื่อความแม่นยำที่สุด
Q: สามารถอัปเกรดแบตเดิมเป็นลิเธียมได้ไหม?
A: ได้ครับ แต่ควรประเมินความเข้ากันได้ของแรงดัน ขั้วต่อ และระบบชาร์จก่อน เพื่อให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
Q: BMS จำเป็นไหม?
A: จำเป็นมาก โดยเฉพาะงานอุตสาหกรรมที่ต้องปลอดภัย สื่อสารกับระบบรถ และประเมินการใช้งานที่เหลือได้
Q: ชาร์จแบบ Opportunity charging ดีอย่างไร?
A: ช่วยลด Downtime ทำให้สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง และยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่
Q: ถ้าต้องการแบตเตอรี่แบบออกแบบพิเศษต้องเตรียมข้อมูลอะไรบ้าง?
A: ควรเตรียมข้อมูลพื้นฐาน เช่น พื้นที่ติดตั้ง ขนาดเดิม โหลดงาน ชั่วโมงใช้งานต่อวัน ระบบชาร์จ และประเภทหัวเชื่อมต่อ เพื่อให้ออกแบบได้ตรงความต้องการที่สุดครับ