ในยุคที่ค่าไฟฟ้าพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ และพลังงานจากธรรมชาติเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ระบบโซล่าเซลล์จึงกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะระบบ Off-grid หรือระบบที่ไม่เชื่อมต่อกับสายส่งไฟฟ้าของการไฟฟ้า ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพื้นที่ห่างไกลหรือผู้ที่ต้องการมีพลังงานไฟฟ้าใช้แบบพึ่งพาตัวเองอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม หัวใจสำคัญของระบบ Off-grid ที่ไม่ควรมองข้ามคือ แบตเตอรี่สำรองไฟ ซึ่งจะเก็บพลังงานจากแสงอาทิตย์ไว้ใช้ในเวลากลางคืนหรือวันที่ไม่มีแสงแดด ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับระบบโซล่าเซลล์แบบ Off-grid และ แบตเตอรี่ลิเธียมฟอสเฟต (LiFePO₄) ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ตอบโจทย์ระบบโซล่าเซลล์อย่างแท้จริง พร้อมแนะนำวิธีคำนวณขนาดแบตเตอรี่ที่เหมาะกับการใช้งานกันครับ
ระบบโซล่าเซลล์ Off-grid คืออะไร?
ระบบโซล่าเซลล์แบบ Off-grid (ระบบนอกสายส่ง) คือระบบที่ไม่พึ่งพาไฟฟ้าจากการไฟฟ้าโดยตรง แต่จะใช้แผงโซล่าเซลล์ผลิตไฟฟ้า และเก็บพลังงานไว้ในแบตเตอรี่เพื่อใช้งาน โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนหรือวันที่ไม่มีแสงแดด
ส่วนประกอบหลักของระบบ Off-grid ได้แก่:
-แผงโซล่าเซลล์: แปลงพลังงานแสงจากแดดเป็นพลังงานไฟฟ้า
-เครื่องควบคุมการชาร์จ (Charge Controller): ควบคุมการชาร์จแบต
-แบตเตอรี่สำรองไฟ: เก็บพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้
-อินเวอร์เตอร์ (Inverter): แปลงไฟฟ้า DC เป็น AC เพื่อใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้า
ข้อดีของระบบ Off-grid คือ ความสามารถในการทำงานได้อย่างอิสระ แม้ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับ ระบบจะยังคงจ่ายไฟให้กับบ้านหรืออุปกรณ์สำคัญได้ตามปกติผ่านแบตเตอรี่ที่สำรองพลังงานไว้ การมีแบตเตอรี่ที่ดีและขนาดเหมาะสมจะช่วยให้ระบบทำงานได้ตลอดทั้งคืนหรือแม้แต่ในวันที่ไม่มีแสงแดดเพียงพอ นอกจากนี้ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากระบบใช้พลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก และไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศนั่นเองครับ
ทำไมต้องเลือกแบตเตอรี่ LiFePO₄?
แบตเตอรี่ LiFePO₄ หรือ Lithium Iron Phosphate คือแบตเตอรี่ลิเธียมชนิดหนึ่งที่พัฒนาขึ้นมาให้มีความเสถียร ปลอดภัย และอายุการใช้งานยาวนาน เหมาะสำหรับระบบโซล่าเซลล์ในระยะยาว ด้วยเหตุผลเหล่านี้:
1.อายุการใช้งานยาวนาน: LiFePO₄ มีรอบการชาร์จมากกว่า 2,000–5,000 รอบ คุ้มค่ากับการลงทุนระยะยาว
2.จ่ายไฟเสถียรและเต็มประสิทธิภาพ: สามารถใช้งานได้ถึง 80–90% ของความจุโดยไม่ทำให้แบตเสื่อมเร็ว ทำให้ระบบสามารถจ่ายไฟได้ต่อเนื่อง
3.Maintenance free: ไม่มีน้ำกรด ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น ไม่เกิดไอระเหย สามารถติดตั้งในที่ปิดได้อย่างปลอดภัย
4.มีความปลอดภัยสูง: LiFePO₄ มีความเสถียรทางเคมี ไม่ติดไฟง่าย และทนต่ออุณหภูมิสูงได้ดี
เพื่อให้ระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ การเลือกขนาดแบตเตอรี่ที่เหมาะสมจึงสำคัญมาก การเลือกขนาดแบตต้องพิจารณาตาม ปริมาณการใช้ไฟฟ้า และ จำนวนวันที่ต้องการสำรองไฟ เมื่อไม่มีแสงแดด เช่น ฝนตกหรือช่วงกลางคืน
สูตรคำนวณเบื้องต้น: ขนาดแบตเตอรี่ (Wh) = ปริมาณการใช้ไฟฟ้าต่อวัน (Wh) × จำนวนวันที่ต้องสำรอง
ตัวอย่าง:
คุณใช้ไฟวันละ 1,000Wh (1 กิโลวัตต์ชั่วโมง) และต้องการสำรองไฟไว้ 2 วัน
ขนาดแบต = 1,000 × 2 = 2,000Wh
ถ้าคุณเลือกแบต LiFePO₄ ขนาด 12V: 2,000Wh ÷ 12V = 166.7Ah
ดังนั้นควรเลือกแบตเตอรี่ LiFePO₄ อย่างน้อย 12V 170Ah
ข้อแนะนำ หากเลือกใช้แบตขนาดเล็กเกินไป ระบบจะมีปัญหาการจ่ายไฟไม่เพียงพอ ควรเผื่อขนาดแบตประมาณ 20% เพื่อรองรับการเสื่อมสภาพเมื่อใช้งานระยะยาว และอย่าลืมดูสเปกของ Inverter และ Solar Charger ให้รองรับแรงดันและความจุของแบตที่เลือกใช้นะครับ
หากคุณกำลังมองหาแบตเตอรี่ LiFePO₄ คุณภาพสูง ไปใช้งานในระบบโซล่าเซลล์ออฟกริด SPA Battery พร้อมให้บริการ เราสามารถปรับแต่งให้ตรงตามสเปก สำหรับท่านที่ต้องการกำหนดความจุของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่จาก SPA ผ่านมาตรฐาน ระดับสากล ไว้ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลหรือขอรับคำปรึกษาเบื้องต้นก่อนได้ที่ https://www.facebook.com/spabattery หรือ Line : @spabattery นะครับ