หลังจากที่เราได้ทราบ ข้อดี-ข้อเสีย และการใช้งานของถ่านชาร์จกันไปแล้วในบทความก่อนๆ อีกเรื่องที่สำคัญมาก ก็คือตัวแท่นชาร์จ โดยที่ตัวแท่นชาร์จเองนั้นปัจจุบันก็มีให้เลือกมากมากหลากหลาย โดยมีความแตกต่างทั้งเรื่องของ ระบบการชาร์จ และระยะเวลาในการชาร์จ
โดยจะขอแบ่งเรื่องของระบบของแท่นชาร์จไว้เพียง 2 แบบหลักๆ คือ
1.ระบบชาร์จไฟแบบไม่ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อแบตเตอรี่ถูกชารจ์ไฟจนเต็ม
2.ระบบที่ตัดไฟได้อัตโนมัติเมื่อแบตเตอรี่เต็ม
สำหรับการเลือกแท่นชาร์จมาใช้งานนั้น ผู้ซื้อควรจะต้องศึกษาข้อมูล โดยอาจดูจากฉลากของสินค้า หรือเอกสารข้อมูลบนตัวสินค้า ซึ่ง ส่วนหลักๆ ที่ผู้ซื้อควรต้องดู คือ ปริมาณกระแสชาร์จ โดยสังเกตจากคำว่า Output ซึ่งจะระบุเป็น Volt DC และเขียนคู่กับตัวเลขปริมาณกระแสชาร์จ ตัวอย่างเช่น Output : 200mA
จากข้อความนี้จะทำให้เราทราบว่าตัวเครื่องจะสามารถชาร์จไฟให้กับถ่านได้ ครั้งละ 2 ก้อน (แรงดันไฟสำหรับชาร์จ 1.4V-1.7V ต่อก้อน, ขึ้นอยู่กับการออกแบบของแท่นชาร์จแต่ละตัว) โดยแต่ละก้อนจะถูกชาร์จด้วยกระแสไฟ 200mA ทำให้มีปริมาณไฟไหลเข้าไปเก็บในแบตเตอรี่ ชั่วโมงละ 200mAh จากข้อมูลนี้เราสามารถคำนวณคร่าวๆได้ว่า หากเราซื้อแท่นชาร์จตัวนี้ไปแล้ว เราจะต้องใช้เวลาในการชาร์จไฟนานเท่าไหร่ ตรงกับความต้องการของเราหรือไม่
เช่น ถ้าเรามีถ่าน ขนาดความจุ 2000mAh หากเราซื้อแท่นชาร์จดังกล่าวไปใช้ ถ้าเราเริ่มชาร์จจากแบตเตอรี่ไฟหมด จะชาร์จไฟเข้าไปได้ชั่วโมงละ 200mAh, เท่ากับว่า ถ่าน 2000mAh จะใช้เวลาในการชาร์จด้วยแท่นนี้ประมาณ 10 ชั่วโมง หรือหากถ่านเราความจุ 2000mAh แต่เราต้องการชาร์จให้เต็มภายใน 2 ชั่วโมง นั่นหมายความว่าเราต้องเลือกแท่นชาร์จที่มีกระแสชาร์จ 1000mA โดยประมาณ
สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาแท่นชาร์จดีๆสักตัว สอบถามหรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/spabattery
https://www.spabattery.com
หรือ Line : @spabattery นะครับ