สำหรับผู้ใช้งานกล้องถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นกล้อง Digital, DSLR, Mirror less หรือแม้แต่กล้องแอคชันแคม (Action Cam) สิ่งหนึ่งที่มักพบเจอคือ ตัวเลขต่าง ๆ บนแบตเตอรี่กล้อง ซึ่งอาจดูเหมือนเป็นเพียงรหัสสินค้า ไม่ได้สำคัญอะไร แต่ความจริงแล้ว ตัวเลขเหล่านั้นสำคัญมาก เพราะส่งผลโดยตรงต่อ การใช้งาน ความเข้ากันได้ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพ ของกล้องของคุณ

ในบทความนี้จะพาคุณมา ทำความเข้าใจความหมายของตัวเลขบนแบตเตอรี่กล้อง แบบง่าย ๆ ใช้เวลาอ่านไม่ถึง 5 นาที ก็สามารถเลือกแบตเตอรี่ได้อย่างถูกต้อง

ความหมายของ V และ mAh ตัวเลขบนแบตเตอรี่

บนแบตเตอรี่กล้องแต่ละก้อน จะพบกับชุดตัวเลขและตัวอักษรที่แตกต่างกันไป แต่มีอยู่สองค่าหลักที่คุณควรรู้จักและทำความเข้าใจ นั่นคือ V และ mAh เรามาดูกันว่าแต่ละตัวมีความหมายอย่างไร

• V (โวลต์) – แรงดันไฟฟ้า: หน่วยวัดแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่ ค่าโวลต์นี้เป็นตัวบ่งชี้ถึง “กำลัง” ที่แบตเตอรี่จ่ายให้กับอุปกรณ์ ควรใช้แบตเตอรี่ที่มีโวลต์ตรงตามที่ระบุไว้ในคู่มือกล้องหรือบนตัวแบตเตอรี่เดิมเท่านั้น
• mAh (มิลลิแอมป์-ชั่วโมง) – ความจุแบตเตอรี่: หน่วยวัดความจุของแบตเตอรี่ที่พบบ่อยที่สุด ยิ่งตัวเลข mAh สูงเท่าไหร่ แบตเตอรี่ก้อนนั้นก็จะเก็บประจุไฟฟ้าได้มากเท่านั้น และสามารถจ่ายไฟให้กล้องได้นานขึ้น

Model Number / Part Number – รหัสรุ่นเฉพาะตัวของแบตเตอรี่กล้อง

แบตเตอรี่กล้องทุกก้อนจะมี “Model Number” หรือ “Part Number” กำกับอยู่เสมอ รหัสเหล่านี้มักจะประกอบด้วยตัวอักษรและตัวเลขผสมกัน ซึ่งเป็นรหัสเฉพาะที่ใช้ระบุรุ่นของแบตเตอรี่นั้นๆ เช่น สำหรับกล้อง Canon อาจเป็น LP-E6, LP-E17 หรือสำหรับ Sony อาจเป็น NP-FZ100, NP-FW50 เป็นต้น

ข้อมูลอื่นๆ ที่อาจพบบนแบตเตอรี่กล้อง:

Charging Voltage / Max Charge Voltage: แรงดันไฟฟ้าสูงสุดที่แนะนำสำหรับการชาร์จ

Minimum Capacity: ความจุขั้นต่ำที่แบตเตอรี่ควรมี ซึ่งอาจแตกต่างจากความจุปกติเล็กน้อย

สัญลักษณ์คำเตือน: เช่น ห้ามทิ้งในถังขยะทั่วไป, ห้ามสัมผัสความร้อนสูง, ห้ามแกะ หรือสัญลักษณ์รีไซเคิล ซึ่งเป็นคำแนะนำด้านความปลอดภัยและการกำจัดที่ถูกต้อง

การทำความเข้าใจตัวเลขบนแบตเตอรี่กล้องเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะแบตเตอรี่คือแหล่งพลังงานหลักที่ทำให้กล้องของคุณสามารถทำงานได้ ตั้งแต่การเปิดเครื่อง การทำงานของเซ็นเซอร์ การประมวลผลภาพ ไปจนถึงการแสดงผลบนหน้าจอ LCD และการทำงานของแฟลช ทุกฟังก์ชันล้วนต้องอาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่

การเลือกใช้แบตเตอรี่ที่เหมาะสมและทำความเข้าใจความหมายของตัวเลขบนแบตเตอรี่กล้องนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่เพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ แต่ยังรวมถึงเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการถ่ายภาพของคุณอีกด้วย

FAQs (คำถามที่พบบ่อย)

Q1: ควรเลือกแบตเตอรี่กล้องที่มี mAh สูงที่สุดเท่าที่จะหาได้หรือไม่ ?
โดยทั่วไปแล้ว แบตเตอรี่ที่มี mAh สูงกว่าจะทำให้ถ่ายภาพได้นานขึ้น แต่ก็อาจมีราคาแพงกว่าและอาจมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน  และที่สำคัญคือต้องมีค่า V (โวลต์) ที่ตรงกับกล้องของคุณ

Q2: แบตเตอรี่กล้องคนละรุ่น สามารถใช้แทนกันได้ไหม ?
แบตเตอรี่กล้องคนละรุ่น ไม่สามารถใช้แทนกันได้ การดู Model Number ของแบตเตอรี่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แบตเตอรี่กล้องแต่ละรุ่นถูกออกแบบมาให้มีขนาด รูปร่าง และแรงดันไฟฟ้า (V) ที่เฉพาะเจาะจงกับกล้องรุ่นนั้นๆ การใช้แบตเตอรี่ผิดรุ่นอาจทำให้เกิดความเสียหายกับกล้องได้

Q3: ทำไมแบตเตอรี่บางก้อนราคาแพงกว่าแม้ mAh เท่ากัน ?
เพราะคุณภาพเซลล์แบตเตอรี่, วงจรป้องกัน, และมาตรฐานความปลอดภัยที่แตกต่างกัน ทำให้ราคาของแบตเตอรี่แต่ลแบรนด์แตกต่างกันออกไป

Q4: น้ำหนักของแบตเตอรี่กล้องมีความสัมพันธ์กับค่า mAh หรือไม่ ?
น้ำหนักของแบตเตอรี่กล้องเกี่ยวข้องกับค่า mAh แต่ไม่เสมอไป มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อน้ำหนักของแบตเตอรี่  เช่น วัสดุที่ใช้ห่อหุ้ม วงจรภายใน หรือเทคโนโลยีการผลิต ก็อาจส่งผลต่อน้ำหนักได้เช่นกัน ดังนั้นแบตเตอรี่ที่มี mAh เท่ากันแต่แบรนด์ต่างกันก็อาจมีน้ำหนักแตกต่างกันได้

Q5: รหัสรุ่นแบตเตอรี่กล้อง คือรหัสของกล้องหรือไม่ ?
ไม่ใช่ รหัสรุ่นของแบตเตอรี่กล้อง เป็นรหัสเฉพาะของแบตเตอรี่ ไม่ใช่รหัสรุ่นของกล้องถ่ายรูป

Q6: ถ้าใช้แบตผิดจากรุ่นเดิม จะเกิดอะไรขึ้น ?
ถ้าใช้แบตเตอรี่ที่รหัสรุ่นไม่ตรงกัน แม้ขนาดและแรงดันจะใกล้เคียงกัน ก็อาจเสียบไม่เข้า, ไม่สามารถจ่ายไฟได้ หรือในบางกรณีอาจเกิดความเสียหายต่อกล้องหรือแบตเตอรี่ได้