วิธีการใช้งานแบตฯแห้งให้ถูกต้อง สามารถใช้แบตเตอรี่ได้ยาวนาน

ตามที่เคยได้กล่าวไว้แล้วในบทความครั้งก่อนเกี่ยวกับแบตเตอรี่แห้ง หรือ SLA / VRLA Battery ว่ามีคุณสมบัติที่ดี และสามารถใช้งานได้หลากหลาย แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้งานทั่วไปที่มักไม่ทราบ และคิดว่าแบตตะกั่วกรดเหมือนกันหมด ซื้อแบบไหนก็ใช้ได้เหมือนกัน ซึ่งผิดมหันต์ เพราะแบตเตอรี่ตะกั่วกรดแบบซีลนั้น ถูกออกแบบให้ใช้กับงานหลักๆ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่เรียกว่า Main Power กับอีกกลุ่ม คือ Standby Power ซึ่งถ้าผู้ใช้งานเลือกใช้งานผิดกลุ่ม นั่นหมายถึงอายุการใช้งานของแบตเตอรี่จะสั้นลงอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว ผู้ใช้จึงควรศึกษาข้อมูล หรือปรึกษาผู้รู้ก่อนเลือกใช้งาน แต่สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ก็แนะนำว่า ให้ผู้ใช้นำแบตเตอรี่ลูกเดิมที่เสีย หรือถ่ายรูปแบต เพื่อนำไปเป็นข้อมูลประกอบการซื้อแบตเตอรี่ทดแทน สำหรับแบตเตอรี่ที่ดีจะมีคำแนะนำการใช้งานแนบมาด้วย ผู้ใช้ควรศึกษาและปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น ไม่ควรใช้งานแบตเตอรี่จนแรงดันไฟฟ้าต่ำกว่าจุดใช้งาน/ กระแสไฟและแรงดันไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ลูกนั้น/ ควรชาร์จแบตเตอรี่กลับจนเต็มภายหลังการใช้งานทุกครั้ง/ หลีกเลี่ยงแบตเตอรี่ให้ห่างมือเด็ก/ หลีกเลี่ยงความร้อนและเปลวไฟ เป็นต้น

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการใช้งานแบตเตอรี่แห้ง

แม้ว่าแบตเตอรี่แห้ง (SLA/VRLA Battery) จะมีจุดเด่นเรื่องความทนทาน และไม่ต้องดูแลมาก แต่การใช้งานผิดวิธีอาจทำให้อายุการใช้งานสั้นลงโดยไม่รู้ตัว ซึ่งข้อผิดพลาดที่พบบ่อย ได้แก่

  1. เลือกแบตเตอรี่ไม่ตรงกับประเภทการใช้งาน แบตเตอรี่แห้งมีทั้งแบบสำหรับจ่ายไฟหลัก (Main Power) และแบบสแตนด์บาย (Standby Power) หากนำแบตเตอรี่สแตนด์บายไปใช้งานต่อเนื่อง เช่น งานโซลาร์เซลล์หรือรถไฟฟ้า จะทำให้แบตเสื่อมเร็วมาก
  2. ปล่อยให้แบตหมดไฟเป็นเวลานาน การปล่อยให้แบตหมดแล้วไม่รีบชาร์จ จะทำให้เซลล์ภายในเสื่อมถาวร โดยเฉพาะในอุปกรณ์ที่ไม่ใช้งานบ่อ
  3. ชาร์จแบตเตอรี่ด้วยแรงดันหรือกระแสไม่เหมาะสม การใช้เครื่องชาร์จที่ไม่เหมาะสม เช่น ชาร์จไฟแรงเกินไป หรือไม่ถึงระดับที่แบตต้องการ อาจทำให้แบตเสื่อมหรือระเบิดได้
  4. ไม่อ่านคู่มือหรือคำแนะนำการใช้งาน หลายคนมักละเลยฉลากหรือคำแนะนำจากผู้ผลิต เช่น ระดับแรงดันไฟที่ควรชาร์จ, อุณหภูมิที่เหมาะสม ฯลฯ
  5. เก็บแบตเตอรี่ในที่ร้อนหรือชื้นเกินไป สภาพแวดล้อมมีผลอย่างมาก หากเก็บแบตไว้ในที่อุณหภูมิสูงกว่า 25°C อย่างต่อเนื่อง จะทำให้อายุแบตลดลงเร็วขึ้นถึง 2 เท่า

การดูแลรักษาแบตเตอรี่แห้งให้ใช้งานได้นานที่สุด

การใช้งานแบตเตอรี่แห้งให้คุ้มค่าและยืดอายุการใช้งานสูงสุดไม่ใช่เรื่องยาก หากปฏิบัติตามคำแนะนำง่ายๆ ต่อไปนี้

  1. เลือกแบตเตอรี่ให้ตรงกับลักษณะการใช้งาน อ่านสเปกของแบตเตอรี่ให้ชัดเจนก่อนซื้อ เช่น ความจุ (Ah), แรงดันไฟ (V), และประเภทการใช้งาน (Main / Standby)
  2. ใช้งานแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับโหลดที่รองรับ อย่าใช้แบตให้จ่ายกระแสมากเกินกำลัง เพราะจะทำให้แบตร้อนและเสื่อมเร็ว
  3. อย่าปล่อยให้แบตหมดบ่อย หรือใช้งานจนแรงดันไฟต่ำ ควรชาร์จแบตทันทีหลังการใช้งาน หรือเมื่อแรงดันไฟตกต่ำกว่าที่กำหนด เพื่อป้องกันการเกิด “แบตลึก” ที่ทำให้เซลล์เสื่อม
  4. ใช้เครื่องชาร์จที่เหมาะสม เลือกเครื่องชาร์จที่ควบคุมแรงดันและกระแสอัตโนมัติ (มีระบบตัดไฟเมื่อชาร์จเต็ม) จะช่วยยืดอายุแบตได้มาก
  5. ตรวจสอบสภาพแบตทุก 3-6 เดือน หากไม่ได้ใช้งาน ควรชาร์จซ้ำเป็นระยะเพื่อรักษาสภาพเซลล์ และตรวจสอบขั้วต่อให้แน่นสนิท ไม่มีรอยรั่วหรือสนิม
  6. เก็บแบตเตอรี่ในที่แห้งและเย็นอุณหภูมิห้องที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 15-25°C และควรเก็บให้พ้นแสงแดดและแหล่งความร้อน

แบตเตอรี่แห้ง หรือ SLA / VRLA Battery มีคุณสมบัติที่ดี ใช้นาน ทนทาน maintenance free อีกทั้งสามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์หลากหลาย แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้งานทั่วไปที่มักไม่ทราบ และคิดว่าแบตตะกั่วกรดเหมือนกันหมด ซื้อแบบไหนก็ใช้ได้เหมือนกัน ซึ่งไม่ใช่เลยครับ

หากผู้ใช้งานไม่แน่ใจ ทางSPA แบตเตอรี่มีไลน์แอดเพื่อให้แชทเข้ามาสอบถามได้ด้วยนะ! โดยให้ผู้ใช้นำแบตเตอรี่ลูกเดิมที่เสีย หรือถ่ายรูปแบต เพื่อนำไปเป็นข้อมูลประกอบการซื้อแบตเตอรี่ทดแทนได้อย่างถูกต้องครับ


สอบถามหรือหาข้อมูลเพิ่มเติม
https://www.facebook.com/spabattery
https://www.spabattery.com
หรือ Line : @spabattery นะครับ