mAh ของถ่านชาร์จ มีผลยังไงต่อการใช้งาน

ถ้าสงสัยเหมือนกัน มารวมกันตรงนี้…. 

ปัจจุบันถ่านชาร์จ มีให้เลือกใช้งานมากมายหลากหลายชนิด ซึ่งมีความสามารถในการจ่ายไฟที่แตกต่างกัน ตามคุณสมบัติและการเชื่อมต่อของแบตชนิดต่างๆ วันนี้เราจะมาพูดถึงหัวข้อหนึ่งซึ่งมีความสำคัญ ซึ่งก็คือ “mAh”   เป็นตัวย่อมาจากคำว่า milli ampere-hour

สำหรับหลายๆ คนที่กำลังตัดสินใจเลือกใช้งานถ่านชาร์จ นอกจากจะต้องศึกษาชนิดของแบตเตอรี่และเลือกใช้งานให้ตรงกับความต้องการของอุปกรณ์ หากสังเกตุกันดีๆ ที่ตัวถ่านชาร์จแต่ละก้อนจะมีระบุค่า เป็นตัวเลข และตามด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ mAh ซึ่ง ค่านี้สำคัญอย่างไร ทำไมจึงต้องมีระบุไว้บนถ่านชาร์จทุกๆก้อน วันนี้ Spa battery จะมีแนะนำความรู้เพิ่มเติม ตรงจุดนี้กันครับ

mAh คืออะไร ต่างจากแรงดันไฟ (V) ยังไง?

หลายคนอาจสับสนระหว่างค่า mAh กับ แรงดันไฟฟ้า (V) ว่าคือสิ่งเดียวกันหรือไม่ ขอตอบเลยว่า ไม่เหมือนกันครับ

  • mAh คือหน่วยวัด “ความจุ” หรือปริมาณพลังงานที่ถ่านชาร์จสามารถเก็บไว้ได้ ยิ่งค่าตัวเลขมาก แปลว่าแบตเตอรี่จุพลังงานได้มาก และสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานขึ้น

  • แรงดันไฟฟ้า (V) คือ “ความแรง” ของกระแสไฟที่ไหลออกจากแบตเตอรี่ เปรียบง่าย ๆ mAh คือ “ขนาดของถังน้ำ” ส่วน V คือ “แรงดันน้ำที่ไหลออกมา”

ทั้งสองค่าต้องสัมพันธ์กันกับอุปกรณ์ หากใส่ถ่านที่มีแรงดันไฟฟ้าสูงเกิน อาจทำให้วงจรอุปกรณ์เสียหายได้

ยกตัวอย่างเช่น ถ่านชาร์จลิเธียมไอออน(Li-ion) ขนาด 18650 ที่ปัจจุบันมีการใช้งานกับอุปกรณ์ต่างๆ มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราจะเห็นว่า ตัวถ่านมีพิมพ์ความจุ 2300mAh, 2600mAh, 2900mAh ตัวเลขข้างหน้า “mAh” นี้จะบอกถึงความจุพลังงานที่แบตเตอรี่ก้อนนี้สามารถเก็บสะสมไว้ได้  ตัวเลขนี้ยิ่งมากยิ่งจุไฟได้เยอะ  

mAh เยอะขึ้น = ดีเสมอไหม?

คำถามนี้มีหลายคนสงสัย เพราะคิดว่าถ้าเลือกถ่านที่มีค่า mAh เยอะที่สุดคือดีที่สุดเสมอ ซึ่งไม่ถูกต้องเสียทีเดียวครับ

ข้อดีของ mAh ที่เยอะขึ้น:

  • ถ่านสามารถจ่ายไฟได้นานขึ้น เหมาะกับอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานต่อเนื่อง เช่น พัดลมพกพา, ไฟฉายแรงสูง

  • ช่วยให้ลดความถี่ในการชาร์จ

แต่ข้อควรระวังคือ:

  • ถ่านที่มี mAh เยอะขึ้นมักมีขนาดใหญ่ หนักขึ้น หรือราคาแพงขึ้น

  • ต้องดูให้แน่ใจว่าอุปกรณ์รองรับ ถ่านขนาดนั้นได้ ทั้งในแง่ของแรงดันไฟ (V) และขนาดช่องใส่

  • การชาร์จถ่านที่มีความจุสูงก็ใช้เวลานานขึ้น หากใช้เครื่องชาร์จที่ไม่เหมาะสม อาจใช้เวลาหลายชั่วโมง

ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น เดิมเคยใช้ถ่านลิเธียมขนาดความจุที่ 1500mAh กับพัดลมมือถือ แบบเปิดต่อเนื่องได้ประมาณ 2 ชม. ถ้าเปลี่ยนมาใช้ถ่านลิเธียมที่มีควาจุดสูงขึ้นเป็น 2300mAh ก็จะสามารถใช้งานอุปกรณ์เดิม แบบเปิดต่อเนื่องได้นานประมาณ 3 ชม. แบบนี้ครับ

แต่ต้องอย่าลืมว่า เมื่อเพิ่มความจุก็จะสามารถใช้งานได้นานกว่า แต่ก็ต้องแลกกับระยะเวลาในการชาร์จไฟที่นานขึ้นด้วยนะครับ

นอกจากนี้ การเลือกซื้อควรคำนึงถึงมาตรฐานและความปลอดภัยของตัวถ่านชาร์จเป็นอย่างมาก ควรเลือกใช้แบตเตอรี่ที่ได้มาตรฐาน แบรนด์ Spa Battery เป็นแบรนด์ที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน มอก. ปลอดภัย ทนทาน และมีให้เลือกหลายขนาดความจุ เพื่อรองรับการใช้งานในหลายอุปกรณ์  

สอบถามหรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/spabattery
https://www.spabattery.com  

https://www.spabattery.com/shop/single-cell-battery 

หรือ Line : @spabattery นะครับ