สาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่บวม เกิดจากอะไรได้บ้าง แล้วควรดูแลรักษาอย่างไร
สำหรับแบตเตอรี่ที่เราพบเห็นว่ามันบวมได้บ่อยที่สุด จะเป็นแบตเตอรี่กลุ่มลิเธียม ไม่ว่าจะเป็นลิเธียมไอออน (Lithium ion) หรือลิเธียมโพลิเมอร์ (Lithium Polymer) อุปกรณ์ที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดและนำมาเป็นตัวอย่างได้เป็นอย่างดีก็คือ แบตเตอรี่มือถือ กล้องอิจิตอล หรือกล้องวีดิโอ นั่นเอง แบตเตอรี่กลุ่มนี้มีโอกาสที่จะเกิดอาการบวมได้ทั้งสิ้น ซึ่งจริงๆแล้ว อาการบวมนั้นมีขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน
ในบางกรณี อุปกรณ์ชาร์จปล่อยกระแสไฟในพลังงานที่มาก เช่น ระบบ Fast Charge ที่ช่วยให้ชาร์จเต็ม 100 % ในเวลาไม่นาน แต่นั่นก็หมายความว่าแบตเตอรี่ต้องรับภาระในการชาร์จมาก เมื่อเกิดความร้อนสูง วกกับไปข้อแรก ผลคือแบตเตอรี่เกิดอาการบวมและเสื่อมสภาพนั่นเอง
จากหัวข้อด้านบน เราพอจะทราบแล้วว่าสาเหตุหลักๆที่แบตเตอรี่เกิดอาการบวมขึ้นมา มาจากความร้อน การใช้อุปกรณ์และพักบ้าง เพื่อให้อุปกรณ์ได้พักคลายร้อน ช่วยในการถนอมแบตเตอรี่ให้ใช้ได้ยืนยาวมากขึ้น ทั้งนี้ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าแบตเตอรี่เริ่มบวมแล้วล่ะ?
แบตเตอรี่ของคุณเริ่มบวมหรือยัง บางครั้งไม่สามารถตรวจสอบด้วยตาปล่าวได้ นอกเสียจากว่ามันบวมมากแล้ว มีวิธีง่ายๆ คือ ลองถอดแบตเตอรี่ออกมาวางบนพื้นผิวที่เรียบๆ แล้วลองจับหมุนดู หากถ้าแบตเตอรี่ไม่บวม มันจะหมุนไม่เกินรอบเดียว ตรงกันข้าม แบตเตอรี่ที่เริ่มบวมแล้วจะหมุนหลายรอบ เป็นสัญญาณการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่นั่นเอง
นอกจากนี้ การใส่เคสมือถือที่เป็นยาง แล้วชาร์จแบตเตอรี่ ทำให้การระบายความร้อนในระหว่างชาร์จไฟ ทำได้ไม่ดี ส่งผลให้มีความร้อนสะสมในตัวแบตโดยไม่สามารถระบายออกมาได้ การชาร์จแบตเตอรี่โดยถอดจากตัวเคสก่อนจะช่วยยืดอายุของแบตเตอรี่ได้เป็นอย่างดี หรือถ้าไม่อยากถอดก็ควรชาร์จในพื้นที่ที่ถ่ายเทอากาศได้ดี หรือในห้องปรับอากาศก็ได้ แต่ไม่ควรวางเครื่องไว้บน ฟูก หมอน หรือที่นอน เพราะทำให้เครื่องระบายความร้อนไม่ได้ ตัวเครื่องและแบตจะร้อนจัดจนเกิดอาการบวมได้
สอบถามหรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/spabattery
https://www.spabattery.com
หรือ Line : @spabattery นะครับ