5 เทคนิคใช้ Google Maps

รู้สักนิด ก่อนเดินทางช่วงวันหยุดยาว

เมื่อพูดถึง Google Maps ฟีเจอร์นึงที่หลายๆคนน่าจะได้ใช้กันประจำเพื่อเลี่ยงรถติด ก็คือการดูสภาพจราจรบนถนนแบบ real-time ซึ่งฟีเจอร์นี้ได้ช่วยให้หลายๆคนสามารถรอดพ้นจากการจอดแน่นิ่ง เลี่ยงไปใช้เส้นทางที่เร็วกว่า และไปถึงจุดหมายทันเวลามานักต่อนักแล้ว  วันนี้ทาง spa battery จึงอยากนำเสนอข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ในการใช้ Google Maps สำหรับเดินทางในช่วงวันหยุดยาวนี้

               

1 .เลือกประเภทแผนที่

โดยปกติแล้วเวลาที่เพื่อนๆ เปิด Google Maps ขึ้นมา มักจะเห็นเส้นทางและพื้นที่โดยรอบเป็นสีออกเทาๆ มีเส้นระบุเป็นตรอกซอกซอย, ไอคอนร้านอาหาร / สถานที่ต่างๆ แต่การแสดงผลนี้ไม่ได้มีเพียงแบบนี้ ยังเลือกได้อีกถึง 2 แบบ ได้แก่ ภาพจากดาวเทียม และภาพที่แสดงภูมิประเทศในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งเราสามารถกดเลือกได้จาก “ไอคอนทรงกลมแทรกด้วยรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็กๆ” บริเวณมุมขวาของ Google Maps นั่นเอง เราสามารถเลือกรูปแบบของแผนที่ เพื่อแสดงผลตามที่เราถนัดครับ

               

2.  เช็คการจราจร

***อันนี้สำคัญมาก*** ก่อนการเดินทางควร ยอมเสียเวลาสักนิดเปิด Google Maps เช็คเส้นทางจากจุดที่เราอยู่กับปลายทางที่เราต้องการจะไปว่าสภาพการจราจรเป็นอย่างไร ซึ่งระบบของ Google Maps จะคำนวณให้เราอัตโนมัติว่าเส้นทางไหนเดินทางได้เร็วที่สุด แต่ !!! อย่าเพิ่งเชื่อไปซะทั้งหมดครับ อยากให้ลองแตะตามเส้นทางอื่นๆ แตะที่เส้นสีเทาที่มีตัวเลขบอกเวลากำกับอยู่ เพื่อเช็คดูว่าแต่ละเส้นทางที่ Google Maps นำมาเป็นตัวเลือกนั้นระหว่างการเดินทางสภาพการจราจรเป็นอย่างไร โดยสถานะ ที่เห็นเด่นชัดคือเรื่องสีของเส้นทาง

  • ฟ้า รถโล่ง ทำความเร็วได้
  • ส้ม รถเคลื่อนตัวช้า แต่ไปได้เรื่อยๆ
  • แดง รถติด ขยับสลับหยุด
  • น้ำตาล รถติดแหง่ก โปรดระวังหลับ

               

3. เลี่ยงทางหลวง

ทางหลวงสายเอเชีย หลายคนที่เคยขับรถผ่านเส้นทางนี้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือช่วงวันหยุดยาวใดๆ ก็ตามแต่ ก็จะทราบดีว่าเป็นเส้นทางหลักที่ผู้คนนิยมเลือกใช้เพื่อเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ภาคเหนือ ทำให้เกิดการจราจรที่ติดขัดอย่างมหาศาล ฉะนั้นแล้วก่อนการเดินทางหลายคนมักพยายามหาเส้นทางอื่นๆ เลี่ยงทางหลวงเพื่อหลบการจราจรที่ติดขัด ซึ่ง Google Maps เองก็มีตัวเลือกสำหรับเลี่ยงทางหลวงมาให้เราได้ใช้กันด้วย แต่ก็ต้องยอมรับละครับว่าจะทำให้ระยะเวลาการเดินทางนั้นนานขึ้น แต่เพื่อเลี่ยงรถติดแล้วละก็ เพื่อนๆ ก็อาจจจะลองดูก็ได้นะครับ

               

4. สำรวจสถานที่จำเป็นระหว่างการเดินทาง

การเดินทางระยะไกลๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องหาจุดแวะพัก เพื่อเติมพลังงานให้คนขับและให้รถยนต์ได้พักไปในตัว ซึ่งข้อดีอีกอย่างหนึ่งของ Google Maps คือการสำรวจและบอกสถานที่โดยรอบจากจุดที่เราอยู่ในขณะนั้นได้ เช่น ร้านอาหาร, ปั้มน้ำมัน, ตู้เอทีเอ็ม, ร้านขายยา เป็นต้น

สมมติว่าเราเลือกหาปั้ม ระบบของ Google Maps จะแสดงไอคอนแสดงสัญลักษณ์ของปั้มน้ำมัน พร้อมระบุระยะเส้นทางจากจุดที่เราอยู่เพื่อไปยังปั้มที่ใกล้ที่สุดได้

    

5. เดินทางด้วยรถหลายคัน หากกลัวหลง ก็แชร์สถานที่ให้กันได้ง่ายๆ

สำหรับเพื่อนๆ ที่เดินทางกันเป็นหมู่คณะด้วยรถยนต์หลายคัน โอกาสที่จะขับนำกันหรือไม่รู้ว่าตอนนี้เพื่อนคันอื่นๆ อยู่จุดไหนแล้ว Google Maps สามารถแชร์ตำแหน่งที่เราอยู่ขณะนั้นไปให้เพื่อนคันอื่นๆ ได้รับรู้ได้ด้วย โดยสามารถแชร์ไปยัง Facebook หรือ LINE ก็ได้

ทั้งนี้ อยากแนะนำเพื่อนๆ อีกสักนิดเป็นการทิ้งท้ายว่า Google Maps คือตัวช่วยเพื่อการนำทางที่ทำให้เราสะดวกและไปถึงสถานที่ที่ต้องการได้ก็จริงอยู่ แต่สิ่งที่เรียกว่า “เซ้นท์” ของการขับรถนับว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะบางครั้งหากเรามัวแต่ดู Google Maps จนไม่ได้มองป้ายบอกทางบ้างเลยก็อาจทำให้เราพลาดเส้นทางที่เราก็รู้ทั้งรู้ว่ามันถึงเร็วกว่าที่ Google Maps บอกซะอีก ฉะนั้นแล้ว Google Maps ถึงแม้จะเชื่อได้ แต่ก็เชื่อในตัวเองบ้างนะครับ

ไปเที่ยวแล้วถ่ายรูปสวยๆ กลับมาฝาก spa บางนะครับ

https://www.facebook.com/spabattery
https://www.spabattery.com
หรือ Line : @spabattery