เชื่อว่าช่างทุกคนไม่ว่าจะเป็นช่างมืออาชีพหรือช่างมือสมัครเล่น ต้องมีอาวุธติดตัวประจำบ้าน อย่างสว่านไฟฟ้าที่สำคัญมากๆ ใช้สำหรับเจาะรูบนวัสดุ ขันสกรู ขันน็อต ในงานโลหะ หรืองานอลูมิเนียม ที่มักนิยมใช้กันอย่างมาก คือ สว่านแบบไร้สาย หรือสว่านที่ใช้แบตเตอรี่เป็นตัวขับเคลื่อน ทำความรู้จักประเภทของสว่านเพื่อเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน โดยแบ่งสว่านได้ 3 ประเภท ดังนี้

 

แล้วเราจะรู้หรือเช็คอะไรบ้าง เมื่อสว่านไฟฟ้ามีอาการผิดปกติ ใช้งานได้ไม่เสถียร

อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดก็มีอายุการใช้งานที่แตกต่างกันไปเมื่อใช้งานไปเป็นเวลานานก็ย่อมเสื่อมและเสีย รวมถึงสว่านไฟฟ้าด้วยเช่นกัน ก่อนจะทิ้งและตัดสินใจเปลี่ยนเครื่องใหม่ลองเช็ค 3 ระบบ ดังนี้

  1. ระบบวงจรควบคุมการทำงานของสว่านไฟฟ้า
  2. อุปกรณ์ควบคุมแบตเตอรี่
  3. แบตเตอรี่

ซึ่งปัญหาที่มักพบบ่อย คือ การทำงานของแบตเตอรี่ เพราะตัวแบตเตอรี่เปรียบเสมือนหัวใจหลักของระบบงานไฟฟ้า โดยทั่วไปแล้วอายุของแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ประมาณ 2-3 ปี และประสิทธิภาพในการทำงานก็จะลดลงไป สามารถเช็คได้ว่าแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมและถึงเวลาเปลี่ยนเมื่อรอบการใช้งานลดลง ชาร์จไฟจนเต็มแล้วเมื่อนำกลับมาใช้งานอีกครั้ง แบตเตอรี่ลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งยังคงสามารถใช้ได้ เพียงแต่ประสิทธิภาพการทำงานจะไม่เสถียร ลองสังเกตอาการของสว่านไฟฟ้าดูก่อนนะครับว่าเข้าข่ายหรือไม่

แบตเตอรี่เสื่อม ควรทิ้งอุปกรณ์ หรือเปลี่ยนไส้แบตเตอรี่..

แน่นอนว่าหลายคนคงลังเลอยู่ใช่ไหมครับ ว่าหากแบตเตอรี่เสื่อมแล้วจะทิ้งไปเลยดีไหม สำหรับช่างหลายๆ ท่านแล้วคงจะเสียดายไม่น้อย อย่างไรก็ตามสามารถเปลี่ยนเฉพาะตัวไส้แบตเตอรี่แล้วกลับมาใช้งานได้ปกติ การเปลี่ยนไส้แบตเป็นทางออกที่ทำสว่านกลับมาใช้งานได้นานเหมือนเดิม แต่สำหรับใครที่ไม่ค่อยได้ใช้งานตัวสว่านไร้สายแล้วปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้นำมาชาร์จเลย ก็จะทำให้ตัวแบตที่อยู่ภายในเสื่อมได้เหมือนกันนะครับ การเลือกแบตเตอรี่จะต้องเลือกที่มีการรับรองมาตรฐาน คุณภาพ มอก. มีการรับประกันสินค้า แบตเตอรี่ต้องเหมาะสมกับอุปกรณ์

หากแบตเตอรี่เริ่มมีอาการอย่างที่กล่าวมา สามารถปรึกษาหรือสอบถามเพื่อดูอาการเบื้องต้นก่อนตัดสินเปลี่ยนไส้แบตเตอรี่ได้ที่

https://www.facebook.com/spabattery
https://www.spabattery.com
หรือ Line : @spabattery นะครับ